ในยุคที่การออกแบบบ้านให้ความสำคัญกับทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอย ไม้ปาเก้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในวงการก่อสร้างและตกแต่งภายใน จากสถิติปี 2025 พบว่าตลาดวัสดุปูพื้นไม้มีการเติบโตขึ้นกว่า 15% โดยไม้ปาเก้ครองส่วนแบ่งตลาดมากถึง 40% ของวัสดุปูพื้นไม้ทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อคุณภาพและความคุ้มค่าของวัสดุชนิดนี้
ทำความรู้จักกับไม้ปาเก้
ไม้ปาเก้แตกต่างจากไม้รางลิ้นตรงที่มีความยาวไม่เกิน 60 เซนติเมตร ทำให้สามารถจัดวางได้หลากหลายรูปแบบ ไม้ที่นิยมนำมาทำไม้ปาเก้ ได้แก่ ไม้สักทองพม่า ไม้มะค่า ไม้แดง ไม้ตะแบก และไม้เสะเดา ซึ่งล้วนเป็นไม้ท้องถิ่นที่เติบโตในสภาพอากาศเมืองไทย ทำให้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งานในบ้านเรา ทั้งด้านการทนความร้อน ความชื้น และการป้องกันปลวกมอด
และก็ยังมีไม้ที่นำเข้าจากแถบอเมริกาและยุโรปที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบันคือไม้โอ๊คและไม้แอช เพราะสีเป็นโทนขาวออกไปทางเหลือง และลายไม้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เหมาะแก่การนำมาตกแต่งบ้านที่เน้นโทนสีอ่อนอย่างสไตล์โมเดิร์น สไตล์นอดิก สไตล์มูจิ

ข้อดีของการใช้ไม้ปาเก้
ด้านความสวยงาม
- ไม้ปาเก้โดดเด่นด้วยลวดลายธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของไม้แต่ละชนิด เช่น ไม้สักมีลายเส้นสวยงามเป็นริ้วทอง ไม้มะค่ามีลายเส้นเข้มสีน้ำตาลแดง สร้างมิติให้กับพื้นที่
- สามารถจัดวางได้หลายรูปแบบตามสไตล์การตกแต่ง:
- แบบลายก้างปลา: ให้ความรู้สึกคลาสสิก เหมาะกับบ้านสไตล์ยุโรป
- แบบลายเชฟรอน: ดูทันสมัย เข้ากับบ้านสไตล์ร่วมสมัย
- แบบก่ออิฐและแรนดอม: เป็นลายพื้นฐานที่นิยมใช้มากที่สุด โตบโจทย์คำว่า “เรียบ หรู ดูแพง” ได้อย่างลงตัว นิยมในบ้านทุกสไตล์
- สร้างบรรยากาศอบอุ่นและหรูหราให้กับบ้าน ยิ่งใช้นานยิ่งเพิ่มคุณค่าทางสุนทรียภาพ
ด้านการใช้งาน
- ไม้ปาเก้มีความทนทานสูง โดยเฉพาะไม้เนื้อแข็งอย่างไม้สักทองพม่า ไม้มะค่า และไม้แดง สามารถรับน้ำหนักและทนต่อแรงกระแทกได้ดี
- มีคุณสมบัติพิเศษในการต้านทานปลวกและมอดตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีในการรักษา ได้แก่ ไม้สักทองพม่า ไม้มะค่า ไม้แดง ไม้ตะแบก และไม้เสะเดา
- การดูแลรักษาทำได้ง่าย:
- ทำความสะอาดประจำวันด้วยการกวาดหรือดูดฝุ่น
- เช็ดถูด้วยน้ำยาทำความสะอาดไม้เดือนละครั้ง
- ขัดเคลือบผิวทุก 5-10 ปี ขึ้นกับการใช้งาน
- อายุการใช้งานยาวนานกว่า 20 ปี หากได้รับการดูแลที่เหมาะสม
ด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
- ช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในบ้าน:
- ฤดูร้อน: ช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้าน
- ฤดูหนาว: ช่วยเก็บความอบอุ่นไว้ภายในบ้าน
- มีคุณสมบัติในการดูดซับเสียง:
- ลดเสียงก้องและเสียงสะท้อน
- สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบภายในบ้าน
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม:
- วัสดุจากธรรมชาติ 100%
- สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
- ไม่ปล่อยสารพิษสู่สิ่งแวดล้อม
- ช่วยลดการใช้พลังงานในการปรับอากาศ
การใช้ไม้ปาเก้จึงไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในแง่ของการใช้งาน การดูแลรักษา และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ขั้นตอนการติดตั้งที่ถูกต้อง
การติดตั้งเริ่มจากการเตรียมพื้นผิวปูนให้เรียบและแห้งสนิท เลือกใช้กาวที่มีส่วนผสมของน้ำน้อย หรือใช้กาว PU เลยจะดีที่สุดเพื่อป้องกันการบวมของไม้ การปูควรเว้นระยะห่างจากผนังประมาณ 5-10 มิลลิเมตรเพื่อให้ไม้มีพื้นที่ขยายตัว ระยะเวลาติดตั้งโดยเฉลี่ยใช้เวลา 2-3 วันต่อพื้นที่ 100 ตารางเมตร
การดูแลรักษาไม้ปาเก้
การดูแลประจำวันทำได้โดยการกวาดหรือดูดฝุ่น เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมาก ควรขัดและเคลือบผิวใหม่ทุก 3-5 ปี หากพบรอยขีดข่วนสามารถซ่อมแซมเฉพาะจุดได้โดยใช้ขี้ผึ้งอุดไม้
การคำนวณงบประมาณ
ราคาไม้ปาเก้ขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ โดยไม้สักมีราคาสูงที่สุด รองลงมาคือไม้มะค่า ไม้แดง ไม้ตะแบก และไม้เต็งจิกตามลำดับ ค่าติดตั้งและอุปกรณ์เสริมคิดเป็น 30-40% ของราคาไม้ ค่าบำรุงรักษาระยะยาวต่ำกว่าวัสดุปูพื้นชนิดอื่น ทำให้คุ้มค่าในระยะยาว
ไม้ปาเก้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการตกแต่งบ้าน ด้วยความสวยงาม ความทนทาน และการดูแลรักษาที่ไม่ยุ่งยาก ทำให้เป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง หากเลือกชนิดไม้และการติดตั้งที่เหมาะสม ไม้ปาเก้จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับบ้านของคุณ
เลือกไม้ปาเก้อย่างมืออาชีพ พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
ไม้ปาเก้เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะอยู่คู่บ้านคุณไปอีกนาน การเลือกอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยต้องพิจารณาให้ครบทุกมิติ ทั้งประเภทของงาน สภาพแวดล้อม คุณภาพไม้ และงบประมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ไม้ปาเก้ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง มีความสวยงาม และคุ้มค่าในระยะยาว
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านงานไม้ฟรี! ทีมงานมืออาชีพของเราพร้อมให้คำแนะนำเพื่อช่วยคุณเลือกไม้ปาเก้ที่เหมาะกับบ้านคุณที่สุด
- โทร: 062-535-4629 หรือ 083-994-0676
- Line: @candndesign

ลูกค้ามักดูสินค้านี้เพิ่มเติม