ไม้เนื้อแข็ง ไม้แปรรูป
SAWN TIMBER

ไม้เนื้อแข็ง ไม้แปรรูป

เสน่ห์ของไม้เนื้อแข็งจากธรรมชาติ คือการที่ไม้แต่ละชิ้นมีลวดลายที่แตกต่างกันดูเป็นธรรมชาติ จนกลายเป็นงานแฮนด์เมดที่มีคุณค่าและมีเรื่องราวในตัวไม้เอง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ ” ไม้ ” ยังคงเป็นวัสดุที่คนส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้ก่อสร้างและตกแต่งที่พักอาศัยจนปัจจุบัน

แต่ทว่าไม้แต่ละชนิดนั้นจะมีข้อจำกัดและประโยนช์ในการใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเราจะมาดูกันว่าเราควรเลือกใช้ไม้ชนิดไหน สำหรับงานประเภทไหนดี

ไม้เนื้อแข็ง คืออะไร
ก่อนอื่นเราสามารถสังเกตุได้จากลายไม้ที่เรามักเรียกกันว่าวงปีของไม้ ซึ่งถ้าลายไม้นั้นมีลายค่อนข้างชิดติดกัน มีลายเส้นถี่ คือไม้ที่มีอายุหลายสิบปีและพร้อมที่จะนำมาใช้งาน มีเนื้อมัน เนื้อแน่น สีเข้ม และมีน้ำหนักมาก
โดยมาตรฐานที่ถูกกำหนดโดยกรมป่าไม้ว่าจะต้องใช้วิธีทดสอบค่าความแข็งแรง เช่นหากไม้ชนิดนั้นๆมีค่าความแข็งแรงเกิน 1000กิโลกรัมต่อลบม. และมีค่าความทนทานตามธรรมชาติโดยการนำส่วนที่เป็นแก่นไม้ไปปักดิน แล้วมีค่าความทนทานตามธรรมชาติสูงกว่า 10 ปีขึ้นไป (ยกเว้นไม้ตะเคียนทอง ที่จะมีค่าความทนทานตามธรรมชาติสูงกว่า 7 ปี) แล้วไม้แต่ละชนิดตัวไหนถูกกำหนดว่าเป็นไม้เนื้อแข็งบ้าง อย่างที่เคยได้ยินกันทั่วไปและใช้กันอย่างแพร่หลายก็จะมี ไม้เต็ง ตะแบก แดง มะค่า ตะเคียน สัก ไม้โอ๊ค เป็นต้น เหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ งานก่อสร้างบ้าน และเครื่องมือ

ไม้เนื้อแข็ง ไม้แปรรูป

เสน่ของไม้จริงจากธรรมชาติ คือการที่ไม้แต่ละชิ้นมีลวดลายที่แตกต่างกันดูเป็นธรรมชาติ จนกลายเป็นงานแฮนด์เมดที่มีคุณค่าและมีเรื่องราวในตัวไม้เอง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ ” ไม้ ” ยังคงเป็นวัสดุที่คนส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้ก่อสร้างและตกแต่งที่พักอาศัยจนปัจจุบัน

แต่ทว่าไม้แต่ละชนิดนั้นจะมีข้อจำกัดและประโยนช์ในการใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเราจะมาดูกันว่าเราควรเลือกใช้ไม้ชนิดไหน สำหรับงานประเภทไหนดี

ไม้เนื้อแข็ง คืออะไร
ก่อนอื่นเราสามารถสังเกตุได้จากลายไม้ที่เรามักเรียกกันว่าวงปีของไม้ ซึ่งถ้าลายไม้นั้นมีลายค่อนข้างชิดติดกัน มีลายเส้นถี่ คือไม้ที่มีอายุหลายสิบปีและพร้อมที่จะนำมาใช้งาน มีเนื้อมัน เนื้อแน่น สีเข้ม และมีน้ำหนักมาก โดยมาตรฐานที่ถูกกำหนดโดยกรมป่าไม้ว่าจะต้องใช้วิธีทดสอบค่าความแข็งแรง เช่นหากไม้ชนิดนั้นๆมีค่าความแข็งแรงเกิน 1000กิโลกรัมต่อลบม. และมีค่าความทนทานตามธรรมชาติโดยการนำส่วนที่เป็นแก่นไม้ไปปักดิน แล้วมีค่าความทนทานตามธรรมชาติสูงกว่า 10ปีขึ้นไป (ยกเว้นไม้ตะเคียนทอง ที่จะมีค่าความทนทานตามธรรมชาติสูงกว่า 7 ปี) อย่างที่เคยได้ยินกันทั่วไปและใช้กันอย่างแพร่หลายก็จะมี ไม้เต็ง ตะแบก แดง มะค่า ตะเคียน สัก ไม้โอ๊ค เป็นต้น เหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ งานก่อสร้างบ้าน และเครื่องมือ

ไม้เนื้อแข็งที่ใช้สำหรับงานภายนอก

ควรเป็นไม้ที่มีเซลที่ทนต่อสภาพอากาศ แดด ลม ฝน ได้ดี ซึ่งไม้ที่ใช้สำหรับงานภายนอกเราจะเน้นในเรื่องของความคงทนมากกว่าความแข็งแรง ซึ่งไม้ที่แนะนำจะมีดังนี้

4 ชนิดไม้สำหรับงานภายนอก

สีไม้เต็ง
เต็งลาว
สีไม้แดง
แดง
สีไม้มะค่า
ไม้มะค่า
สีไม้สัก
ไม้สัก
ตัวอย่างระแนงไม้1

ตัวอย่างการใช้งานไม้สำหรับภายนอกอาคาร

ไม้เนื้อแข็งที่ใช้สำหรับงานภายใน

งานภายในอาคารเน้นในเรื่องของความสวยงามและลายไม้มากกว่าแข็งแรงคงทน เนื่องจากงานประเภทนี้จัดเป็นงานตกแต่งที่ไม่จำเป็นต้องรองรับน้ำหนักเหมือนงานที่ใช้สำหรับทำโครงสร้าง เพียงแต่ต้องมั่นใจว่าไม้ที่นำมาทำงานตกแต่งนั้นปลวกมอดไม่่กินและไม้ผ่านการอบแห้งเรียบร้อยแล้วเพื่อตัดปัญหาเรื่องการใช้งานแล้วต้องมานั่งแก่ไขงานกันให้ปวดหัวภายหลัง

8 ชนิดไม้สำหรับงานภายใน

สีสะเดา
ไม้สะเดา
สีไม้ตะแบก
ไม้ตะแบก
สีไม้แดง
แดง
สีไม้มะค่า
ไม้มะค่า
สีไม้สัก
ไม้สัก
สีไม้โอ๊ค
ไม้โอ๊ค
ไม้สำหรับตกแต่งภายใน

ตัวอย่างการใช้งานไม้สำหรับภายในอาคาร

ไม้เนื้อแข็งที่ใช้สำหรับใช้ทำเฟอร์นิเจอร์

ไม้เนื้อแข็งเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับการผลิตเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน และมีลวดลายที่สวยงาม เหมาะกับการออกแบบที่ต้องการความประณีตและความหรูหรา ซึ่งไม้เนื้อแข็งบางชนิดยังเพิ่มมูลค่าให้กับเฟอร์นิเจอร์ด้วยความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

4 ชนิดไม้สำหรับใช้ทำเฟอร์นิเจอร์

สีไม้โอ๊ค
ไม้โอ๊ค
สีไม้แดง
แดง
สีไม้มะค่า
ไม้มะค่า
สีไม้ตะแบก
ไม้ตะแบก
ไม้สำหรับตกแต่งภายใน

ประเภทไม้ที่มีให้บริการ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไม้เนื้อแข็ง

ไม้เนื้อแข็งมีความแข็งแรงและทนทาน เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการรองรับน้ำหนัก เช่น งานโครงสร้าง พื้นไม้ และเฟอร์นิเจอร์ อีกทั้งยังมีลวดลายธรรมชาติที่สวยงาม

ไม้เนื้อแข็งที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ไม้สัก ไม้มะค่า และไม้แดง ซึ่งมีคุณสมบัติต่างกันตามการใช้งาน เช่น ไม้สักเหมาะสำหรับเฟอร์นิเจอร์ ไม้มะค่าเหมาะสำหรับพื้นไม้ และไม้แดงเหมาะสำหรับงานโครงสร้าง

ไม้เนื้อแข็งมีความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว ทนต่อแมลงและปลวก มีความสวยงามของลวดลายไม้ และเพิ่มมูลค่าให้กับงานตกแต่ง

ไม้เนื้อแข็งมักมีน้ำหนักมากและราคาสูงกว่าไม้เนื้ออ่อน อีกทั้งต้องการการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการแตกร้าวหรือบิดเบี้ยว

ควรทำความสะอาดเป็นประจำด้วยผ้านุ่มชุบน้ำหมาด หลีกเลี่ยงการโดนน้ำขัง และทาน้ำมันหรือแว็กซ์เพื่อปกป้องเนื้อไม้จากความชื้นและแสงแดด

ไม้เนื้อแข็งบางชนิด เช่น ไม้สักและไม้แดง สามารถใช้งานภายนอกได้ดี เนื่องจากมีความทนทานต่อสภาพอากาศและปลวกได้เป็นอย่างดี

ควรพิจารณาชนิดไม้ที่เหมาะกับการใช้งาน เช่น ไม้สักสำหรับเฟอร์นิเจอร์ และไม้แดงสำหรับงานโครงสร้าง นอกจากนี้ควรตรวจสอบว่าผ่านการอบแห้งอย่างเหมาะสมเพื่อลดการหดตัวและบิดเบี้ยว

แนะนำให้ซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวดี และสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับประเภทไม้ได้อย่างเหมาะสม

Accordion Coได้ครับ เรารับผลิตพร้อมให้คำแนะนำไม้เนื้อแข็งตามแบบที่ลูกค้าต้องการ ทั้งขนาดและรูปแบบการใช้งานแบบครบวงจรntent

มีบริการจัดส่งทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยคิดค่าบริการตามระยะทาง

มีครับ ไม้เนื้อแข็งของเราผ่านการคัดสรรและตรวจสอบคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ พร้อมมีเอกสารรับรองถูกต้องตามกฎหมาย

เราตรวจสอบความชื้น ความแข็งแรง และลวดลายของไม้ทุกชิ้น เพื่อให้มั่นใจว่าได้คุณภาพดีที่สุดสำหรับลูกค้า

aboutus ร้านไม้

ลูกค้ามักดูสินค้านี้เพิ่มเติม

Q&A เวลาสั่งซื้อไม้ต้องทำอย่างไรบ้าง

  1. อย่างแรกที่ต้องคำนึงถึงคือเราใช้งานภายในหรือภายนอก
  2. ต้องการสีออกมาโทนประมาณไหน และดีไซส์เป็นอย่างไร
  3. ระบุขนาดไม้ที่ต้องการใช้ 
  4. กดเพิ่มเพื่อนแล้วส่งรายละเอียดให้เราได้เลยค่ะ
  5. จากนั้นแอดมินของเราจะเช็คสต๊อคและแจ้งราคากลับไปให้คุณพิจารณา 
  6. หากไม่แน่ใจว่าควรใช้ไม้ชนิดไหน ขนาดเท่าไหร่ดี ปรึกษาเราได้เลยค่ะ