ในปัจจุบัน ไม้ปูพื้นภายในบ้านกำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มบ้านระดับกลางถึงไฮเอนด์ ด้วยความสวยงามโดดเด่นตามธรรมชาติของเนื้อไม้ ความทนทาน และการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นภายในบ้าน ทำให้ไม้ปูพื้นเป็นตัวเลือกยอดนิยมของเจ้าของบ้านและนักออกแบบ
แต่หลายคนมักประสบปัญหาในการเลือกไม้ปูพื้นภายในให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน การเลือกไม้ผิดประเภทอาจส่งผลให้ไม้เสื่อมสภาพเร็ว บิดงอ หรือเกิดปัญหาความชื้น ซึ่งนอกจากจะกระทบต่อความสวยงามแล้ว ยังทำให้สิ้นเปลืองค่าซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่โดยไม่จำเป็น
ความแตกต่างระหว่างไม้รางลิ้นและไม้ปาร์เก้
หลายท่านอาจสงสัยว่า “ไม้รางลิ้น” และ “ไม้ปาร์เก้” ต่างกันอย่างไร แท้จริงแล้ว ทั้งสองประเภทนี้เป็นไม้ที่ใช้สำหรับปูพื้นเหมือนกัน เพียงแต่มีความแตกต่างที่สำคัญในด้านขนาดและการใช้งาน
ไม้ปาร์เก้ คือไม้ปูพื้นที่มีความยาวไม่เกิน 60 เซนติเมตร มักนิยมปูเป็นลวดลายต่างๆ เช่น ลายก้างปลา ลายตาราง ทำให้สามารถสร้างดีไซน์ที่หลากหลายและน่าสนใจ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความโดดเด่นทางด้านการออกแบบ และพื้นที่ที่ไม่กว้างมากนัก
ไม้รางลิ้น คือไม้ปูพื้นที่มีความยาวมากกว่า 60 เซนติเมตรขึ้นไป บางแผ่นอาจยาวถึง 2-3 เมตร มีร่องและลิ้นสำหรับการเชื่อมต่อระหว่างแผ่น ทำให้การปูมีความแน่นหนาและแข็งแรง เหมาะสำหรับพื้นที่กว้าง และต้องการความต่อเนื่องของลายไม้
ตารางเปรียบเทียบไม้รางลิ้นและไม้ปาร์เก้
คุณลักษณะ | ไม้รางลิ้น | ไม้ปาร์เก้ |
ความยาว | มากกว่า 60 ซม. | ไม่เกิน 60 ซม. |
การออกแบบ | เน้นความต่อเนื่อง | สร้างลวดลายได้หลากหลาย |
ความแข็งแรง | แข็งแรงเท่ากัน | แข็งแรงเท่ากัน |
ความเหมาะสมกับพื้นที่ | พื้นที่กว้าง | พื้นที่เล็กถึงกลาง |
ราคา | ราคาต่อตรม.สูงกว่า | ราคาต่อตรม.ต่ำกว่า |
ปัจจัยสำคัญในการเลือกไม้ปูพื้นภายในบ้าน
การเลือกไม้ปูพื้นภายในให้เหมาะสมต้องพิจารณาปัจจัยหลายประการ ผู้เชี่ยวชาญด้านไม้จาก C&N Design แนะนำให้คำนึงถึงปัจจัยต่อไปนี้
1. ลักษณะการใช้งานพื้นที่ – เนื่องจากรูปแบบในการปูลายไม้ส่งผลต่อราคาค่าแรงและ % การสูญเสียเนื้อไม้ไม่เท่ากัน หากเป็นโซนที่ใช้ในการโชว์แขกอาจปูลายเชฟรอนหรือลายก้างปลาเพื่อความหรูหราเป็นหน้าตาให้กับบ้าน แต่หากเป็นโซนห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องแต่งหัว อาจปูลายก่ออิฐหรือลายแรนดอมแทน
2. ความแข็งแรงของพื้นคอนกรีต – พื้นคอนกรีตเทปูนขัดมันเรียบเสมอกันทั้งผืนของแต่ละห้อง
สำหรับไม้ที่ยาวไม่เกิน 1.20 เมตร สามารถปูสดกับหน้าปูนได้เลย สำหรับไม้ที่ยาวเหิน 1.20 เมตร แนะนำให้ปูสมาร์ทบอร์ด 10 มม หรือปูตงไม้ ก่อนปูไม้พื้น เพื่อให้มีพื้นที่ให้การยิงปืนที่ข้างไม้เสริมความแข็งและและการยึดเกาะ
3. งบประมาณและความคุ้มค่าระยะยาว – ไม้ที่มีราคาถูกอาจไม่ทนทานในระยะยาว ทำให้ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่บ่อยครั้ง ควรพิจารณาทั้งราคาและอายุการใช้งาน
4. สไตล์การตกแต่ง – สำหรับบ้านสไตล์ Tropical นิยมใช้ไม้ โทนสีอบอุ่น เช่น ไม้สัก และไม้ตะแบก ที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติและผ่อนคลาย สีสันไม่ฉูดฉาด
การเลือกปูลายไม้ภายในห้องต่างให้เหมาะสมกับการใช้งาน
แต่ละห้องในบ้านมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน จึงควรเลือกปูลายไม้พื้นภายในให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่
ห้องนอนและห้องแต่งตัว
ห้องนอนและห้องแต่งตัวเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่มักวางเฟอร์นิเจอร์หลายๆอย่างเพื่ออำนวยความสะดวกให้การใช้ชีวิต ทำให้โอกาสที่จะมองเห็นไม้ชัดๆเต็มผืนมีน้อยมาก ทางโรงงานมักแนะนำให้ใช้ไม้ที่หน้าเล็กหน่อยหรือสั้นหน่อย รวมถึงลายไม้ที่ปูจะแนะนำเป็นแรนดอมหรือก่ออิฐ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายลง
ห้องนั่งเล่น
เป้นพื้นที่ส่วนกลางที่มีการใช้งานเยอะ รวมถึงใช้ในการรับแขกที่มาเยี่ยม ควรเลือกปูลายไม้ที่เน้นความหรูหราเช่นลายเชฟรอน ลายก้างปลา หรือหากปูลายก่ออิฐจะแนะนำใช้ไม้ที่หน้ากว้างและยาวหน่อยเพื่อเน้นโชว์ไม้
ห้องทานข้าว
ห้องทานข้าวเป็นอีกโซนที่เป็นจุดศูนย์รวมของทุกคนในบ้านจึงมักแนะนำให้ปูลายไม้แบบเดียวกับโซนห้องนั่งเล่น
ห้องน้ำและพื้นที่ชั้น 1 ที่ไม่ได้มีการเตรียมป้องกันความชื้นจากฐานราก
ไม่แนะนำให้ใช้ไม้เพราะอย่างไรก็ตาม ไม้จริงไม่ถูกกับน้ำ หากตามการออกแบบแล้วต้องหารให้ได้ฟีลลิ่งของความเป็นไม้ แนะนำให้ใช้กระเบื้องลายไม้หรือพื้น SPC แทน
การดูแลรักษาพื้นไม้ให้คงความสวยงามยาวนาน
พื้นไม้ที่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีจะมีอายุการใช้งานยาวนานและรักษาความสวยงามได้ดี ข้อแนะนำในการดูแลรักษา
- การทำความสะอาดประจำวัน – ใช้ไม้กวาดขนอ่อนหรือเครื่องดูดฝุ่น หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมากเกินไป
- การบำรุงรักษาตามฤดูกาล – ในช่วงหน้าร้อน ควรรักษาความชื้นในบ้านให้เหมาะสม เพื่อป้องกันไม้แห้งและแตกร้าว ในฤดูฝน ต้องระวังความชื้นสะสม
- การแก้ไขปัญหาที่พบบ่อย – รอยขีดข่วนเล็กน้อยสามารถซ่อมแซมด้วยน้ำยาแว็กซ์สำหรับไม้ ปัญหาปลวกมอดสามารถป้องกันได้ด้วยการเลือกไม้ที่มีคุณสมบัติต้านทานปลวกมอด เช่น ไม้สัก ไม้สะเดา
- การขัดและเคลือบผิวใหม่ – ควรทำทุก 5-7 ปี หรือเมื่อพื้นผิวเริ่มหมองคล้ำ เพื่อฟื้นฟูความสวยงามและเพิ่มการป้องกันให้กับเนื้อไม้
การเลือกไม้ปูพื้นภายในบ้านที่เหมาะสม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องคำนึงถึงความทนทาน การใช้งาน และการดูแลรักษาในระยะยาว ไม้รางลิ้นและไม้ปาร์เก้ต่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานและงบประมาณ
สำหรับเจ้าของบ้านมือใหม่ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกไม้ปูพื้นภายในให้เหมาะสมกับบ้านของคุณ ทางโรงงาน C&N Design มีบริการให้คำปรึกษาและสำรวจพื้นที่ฟรี พร้อมแนะนำไม้ที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ในบ้านของคุณ ติดต่อเข้ามาได้เลย
- โทร: 062-535-4629
- Line: @candndesign
ไม่ว่าคุณจะเลือกไม้ปูพื้นภายใน อย่างไม้รางลิ้นหรือไม้ปาร์เก้ การลงทุนกับไม้คุณภาพดีและการติดตั้งอย่างมืออาชีพจะคุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในแง่ความสวยงาม ความทนทาน และมูลค่าของบ้านที่เพิ่มขึ้น
ลูกค้ามักดูสินค้านี้เพิ่มเติม
