6 ประเภทไม้ฝ้าเพดานยอดนิยม ที่สถาปนิกและนักออกแบบแนะนำ

เมื่อพูดถึงการตกแต่งบ้าน หลายคนมักมองข้ามความสำคัญของฝ้าเพดาน ทั้งที่จริงแล้ว “เพดาน” คือพื้นที่สำคัญที่สามารถสร้างความโดดเด่นให้กับบ้านของคุณ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การใช้ไม้ฝ้าเพดานกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะนอกจากไม้จะสวยงามแล้ว ยังช่วยเพิ่มความอบอุ่น และสร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติภายในบ้าน

ไม้ฝ้าเพดานมีข้อได้เปรียบกว่าวัสดุอื่นในแง่ของความสวยงามตามธรรมชาติ ความทนทาน และคุณสมบัติในการดูดซับเสียง ที่สำคัญ ไม้แต่ละประเภทมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้คุณสามารถเลือกได้ตรงตามสไตล์ที่ต้องการ บทความนี้จะแนะนำ 5 ประเภทไม้ฝ้าเพดานยอดนิยมที่สถาปนิกและนักออกแบบแนะนำให้ใช้

ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเลือกไม้ฝ้าเพดาน

การเลือกไม้ฝ้าเพดานที่เหมาะสมกับบ้านของคุณเป็นเรื่องสำคัญ ก่อนจะตัดสินใจเลือกไม้ฝ้าเพดาน คุณควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:

1.     ตำแหน่งการติดตั้ง – ไม้บางประเภทเหมาะกับการใช้งานภายในอาคารเท่านั้น ขณะที่บางประเภทสามารถทนทานต่อสภาพภายนอกได้ดี
2.     สภาพอากาศและความชื้น – บ้านในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงควรเลือกไม้ที่ทนต่อความชื้นได้ดี
3.     สไตล์การตกแต่ง – ไม้แต่ละชนิดมีสีและลวดลายที่แตกต่างกัน ควรเลือกให้เข้ากับสไตล์โดยรวมของบ้าน
4.     งบประมาณ – ราคาไม้แต่ละประเภทแตกต่างกันมาก ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาทต่อตารางเมตร
5.     ความคงทนและการบำรุงรักษา – บางชนิดทนทานมากแต่ต้องการการดูแลพิเศษ ขณะที่บางชนิดดูแลง่ายแต่อาจมีอายุการใช้งานสั้นกว่า

ประเภทที่ 1: ไม้สักทองสำหรับฝ้าเพดาน

ไม้สักทองพม่าถือเป็น “ราชาแห่งไม้” ด้วยลวดลายที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์และสีน้ำตาลเข้มอมทองที่ดูหรูหรา

ข้อดี:

• มีความเสถียรสูง ไม่บิดงอหรือหดตัวง่าย
• ปลวกและมอดไม่กิน ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนาน
• มีน้ำหนักเบากว่าไม้เนื้อแข็งอื่นๆ ช่วยลดภาระของโครงสร้างอาคาร
• มีน้ำมันในตัว ทำให้ทนต่อความชื้นและแสงแดดได้ดี

ข้อควรระวัง:

• ราคาสูง โดยเฉพาะไม้สักทองพม่า
• ควรทำการเคลือบผิวเพื่อป้องกันแสงแดดและความชื้น

ราคาโดยประมาณ: 2,000-6,000 บาทต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับขนาดของไม้ที่เลือกใช้

ตัวอย่างการใช้งาน: เหมาะกับบ้านสไตล์ไทยร่วมสมัย ทรอปิคอล หรือโมเดิร์นลักชัวรี ในห้องนั่งเล่นหรือทางเข้าบ้าน

ประเภทที่ 2: ไม้ตะแบกสำหรับฝ้าเพดาน

ไม้ตะแบกเป็นไม้เนื้อแข็งปานกลางที่มีสีขาวอมเทา มีลายน้อยและเนื้อไม้เข้ม-อ่อนสลับกันไป

ข้อดี:

• มีความแข็งแรงทนทาน
• ทนต่อความชื้นได้ในระดับหนึ่ง เหมาะกังานตกแต่งภายในอาคาร
• ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับไม้เนื้อแข็งอื่นๆ
• สีอ่อนทำสีได้หลายหลายสไตล์และสามารถขัดเงาได้ดี

ข้อควรระวัง:

• อาจมีการหดตัวเล็กน้อยเมื่อเวลาผ่านไป

ราคาโดยประมาณ: 800-2,00 บาทต่อตารางเมตร

ตัวอย่างการใช้งาน: นิยมใช้ในบ้านสไตล์ลอฟท์ คอนเทมโพรารี หรือโมเดิร์นทรอปิคอล สามารถใช้ได้ทั้งในห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร หรือระเบียง

ประเภทที่ 3: ไม้มะค่าสำหรับฝ้าเพดาน

ไม้มะค่าเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีสีส้มอมแดง มีลวดลายสวยงามและมีความคงทนสูง 

ข้อดี:

• มีลวดลายที่สวยงามและสีที่เป็นเอกลักษณ์
• ทนทานต่อแรงกระแทกและการสึกหรอ
• ปลวกและมอดไม่กิน
• เหมาะกับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร

ข้อควรระวัง:

• มีน้ำหนักค่อนข้างมาก ต้องมั่นใจว่าโครงสร้างรองรับได้
• ต้องระมัดระวังในการติดตั้งเนื่องจากเนื้อไม้แข็งมาก

ราคาโดยประมาณ: 2,000 – 4,000 บาทต่อตารางเมตร

ตัวอย่างการใช้งาน: เหมาะกับบ้านสไตล์คลาสสิก รัสติก หรือวินเทจ นิยมใช้ในห้องที่ต้องการความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์