การสร้างบ้านสักหลังนั้น ทุกรายละเอียดล้วนสำคัญ โดยเฉพาะวงกบประตูไม้ที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องใช้งานเป็นประจำ การเลือกผิดประเภทอาจส่งผลให้เกิดปัญหาในระยะยาว ทั้งเรื่องความทนทาน การบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียเพิ่ม วันนี้เราจะมาแนะนำ 4 ข้อสำคัญที่คุณควรรู้ก่อนเลือกซื้อวงกบประตูไม้ เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพและคุ้มค่ากับการลงทุน
1. การเลือกชนิดไม้ให้เหมาะกับพื้นที่ใช้งาน
การเลือกไม้ให้เหมาะกับพื้นที่ใช้งานถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก คือการใช้งานภายในและการใช้งานภายนอก มีไม้ทีแนะนำทั้งหมด 5 ชนิดดังนี้
- ไม้สะเดา: เป็นไม้เนื้อแข็งปานกลาง มีสีขาวอมชมพู เหมาะสำหรับงานภายในเพราะมีคุณสมบัติต้านทานปลวกและมอด ราคาประหยัด
- ไม้เต็ง: เนื้อไม้มีความแข็งแรงมาก สามารถทำสีอมน้ำตาลถึงเข้มได้ เหมาะสำหรับงานภายในและภายนอก ราคาปานกลาง
- ไม้แดง: เป็นไม้ที่มีความแข็งแรงที่สุด มีสีแดงน้ำตาล เหมาะสำหรับงานภายในและภายนอก เพราะมีคุณสมบัติต้านทานปลวกและมอด ทนแดดและฝน ราคาปานกลาง
- ไม้มะค่า: มีความทนทานสูง ทนต่อสภาพอากาศ มีสีส้มอมแดงสวยงาม ปลวกและมอดไม่กิน เหมาะสำหรับงานภายในและนอก ราคาค่อนข้างสูง
- ไม้สักทองพม่า: เป็นไม้เนื้อเหนียว ลายไม้ชัดเจน มีสีน้ำตาลทอง มีความเสถียรสูง ทนทานต่อสภาพอากาศ และปลวกไม่กิน ราคาค่อนข้างสูง

2. การพิจารณาปัจจัยด้านการติดตั้ง
การติดตั้งวงกบประตูไม้ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่จะกำหนดอายุการใช้งานและความสวยงาม โดยมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาดังนี้
การเตรียมพื้นที่
- พื้นที่ติดตั้งต้องเรียบและได้ระดับ เพื่อป้องกันปัญหาประตูเอียงหรือปิดไม่สนิท
- ตรวจสอบความชื้นของผนังและพื้นที่โดยรอบ ควรมีความชื้นไม่เกิน 20%
- เว้นระยะห่างจากขอบผนังให้เพียงพอสำหรับการติดตั้งวงกบและอุปกรณ์เสริม
อุปกรณ์เสริมที่จำเป็น
1.บานพับประตู แนะนำ 2 ประเภทตามการใช้งาน:
- บานพับผีเสื้อ: ราคาย่อมเยา เป็นที่นิยมในการใช้งาน เวลาปิดประตูจะเห็นสันบานพับ
- บานพับข้อเสือ: เหมาะกับประตูที่เน้นความสวยงานไม่โชว์อุปกรณ์ เพราะหลังติดตั้งเสร็จ เวลาปิดประตูจะไม่เห็นบานพับเลย ราคาค่อนข้างสูง
2.ชุดล็อคประตู เลือกตามพื้นที่ใช้งาน:
- มือจับก้านโยกพร้อมล็อคในตัว: เหมาะสำหรับห้องทั่วไปและห้องน้ำ
- ตลับล็อคมอร์ทิสและมือจับ: เหมาะสำหรับประตูหน้าบ้าน ปลอดภัยสูง
- ดิจิตอลล็อค: ทางเลือกสมัยใหม่ สำหรับประตูหน้าบ้าน
การติดตั้งที่ถูกต้อง
- เว้นระยะห่างขอบ 5-10 มิลลิเมตร เพื่อรองรับการขยายตัวของไม้
- ใช้สกรูยึดวงกบที่มีขนาดเหมาะสม โดยเฉลี่ยทุก 50 เซนติเมตร
- ตรวจสอบความสมดุลของประตูด้วยระดับน้ำทั้งแนวตั้งและแนวนอน
- ทาซิลิโคนยาแนวระหว่างวงกบกับผนังเพื่อป้องกันความชื้น
เทคนิคพิเศษ
- ใช้เหล็กฉากเสริมมุมวงกบเพื่อความแข็งแรง
- ติดตั้งยางกันกระแทกเพื่อป้องกันการกระแทก
- เลือกใช้น็อตฝังที่ซ่อนหัวได้เพื่อความลดเสียงและสวยงาม
การตรวจสอบหลังติดตั้ง
- ทดสอบการเปิดปิดหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าประตูทำงานได้ราบรื่น
- ตรวจสอบระยะห่างระหว่างประตูกับวงกบให้สม่ำเสมอ
- ทดสอบระบบล็อคทุกจุดว่าทำงานได้ปกติ

3. การดูแลรักษาและป้องกันปัญหา
การดูแลรักษาวงกบประตูไม้ให้มีอายุการใช้งานยาวนาน ควรทำดังนี้
- ทาน้ำยาป้องกันปลวกและมอดเป็นประจำ
- หมั่นตรวจสอบรอยแตกร้าวและความชื้น
- ทำความสะอาดและเคลือบผิวไม้ตามระยะเวลาที่เหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการให้วงกบประตูโดนน้ำโดยตรง
4. การเลือกให้เหมาะกับงบประมาณ
การเลือกวงกบประตูไม้ให้เหมาะกับงบประมาณ มีตัวอย่างราคาสำหรับประตู 80×200 ซม ดังนี้
- ไม้สะเดา: เหมาะสำหรับงบประมาณประหยัด ราคาเริ่มต้นที่ 1500 บาทต่อวง
- ไม้เต็ง: ราคาปานกลาง เริ่มต้นที่ 2150 บาทต่อวง
- ไม้แดง: ราคาปานกลาง เริ่มต้นที่ 2750 บาทต่อวง
- ไม้มะค่า: ราคาค่อนข้างสูง เริ่มต้นที่ 4750 บาทต่อวง
- ไม้สักทองพม่า: ราคาสูงที่สุด เริ่มต้นที่ 6500 บาทต่อวง
ทั้งนี้ ควรคำนึงถึงค่าติดตั้งและอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นด้วย
เลือกวงกบประตูไม้อย่างมืออาชีพ พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
วงกบประตูไม้เป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะอยู่คู่บ้านคุณไปอีกนาน การเลือกอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยต้องพิจารณาให้ครบทุกมิติ ทั้งพื้นที่ใช้งาน การติดตั้ง การดูแลรักษา และงบประมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ได้วงกบประตูไม้ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง มีความสวยงาม และคุ้มค่าในระยะยาว
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านงานไม้ฟรี! ทีมงานมืออาชีพของเราพร้อมให้คำแนะนำเพื่อช่วยคุณเลือกวงกบประตูไม้ที่เหมาะกับบ้านคุณที่สุด โดยท่านสามารถ เลือกวงกบประตูไม้ ได้เลย
- โทร: 062-535-4629 หรือ 083-994-0676
- Line: @candndesign

ลูกค้ามักดูสินค้านี้เพิ่มเติม