ไม้เนื้อแข็งมีอะไรบ้าง

ไม้เนื้อแข็งมีอะไรบ้าง ที่เหมาะกับงานก่อสร้างไทย 2025

คุณกำลังมองหาไม้เนื้อแข็งที่มีคุณภาพสำหรับงานก่อสร้างหรือไม่? การตอบคำถาม ไม้เนื้อแข็งมีอะไรบ้าง และการเลือกไม้เนื้อแข็งที่เหมาะสมเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ โดยเฉพาะเมื่อต้องคำนึงถึงสภาพอากาศเขตร้อนของไทยที่มีความชื้นสูงและมีปลวกมอด

  ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านไม้เนื้อแข็งมากกว่า 20 ปี เราพบว่าหลายคนยังสงสัยว่า ไม้เนื้อแข็งมีอะไรบ้าง และไม่ทราบคุณสมบัติเฉพาะของไม้แต่ละชนิด ทำให้เลือกไม้ไม่ตรงกับการใช้งาน บทความนี้จะตอบคำถาม “ไม้เนื้อแข็งมีอะไรบ้าง” และแนะนำไม้เนื้อแข็งท้องถิ่นไทย 7 ชนิดที่มีคุณสมบัติโดดเด่น พร้อมข้อมูลราคาและการใช้งานที่เหมาะสม

ไม้เนื้อแข็งมีอะไรบ้าง และทำไมต้องเลือกไม้เนื้อแข็งไทย?

  ไม้เนื้อแข็งท้องถิ่นไทยมีข้อได้เปรียบสำคัญคือการปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศเขตร้อนได้ดี ไม้เหล่านี้เติบโตในสภาพแวดล้อมเดียวกับที่เราจะนำไปใช้งาน จึงมีปัญหาการหดตัว บิดโก่ง หรือแตกร้าวน้อยกว่าไม้นำเข้า

คุณสมบัติสำคัญของไม้เนื้อแข็งไทยที่ดี ได้แก่

  • เป็นไม้เนื้อแข็งที่ปลวกมอดไม่กิน
  • ทนต่อแรงกระแทกและการใช้งานหนัก
  • มีความคงทนในสภาพอากาศเขตร้อน
  • สีสันและลายไม้ที่สวยงามตามธรรมชาติ
ไม้เนื้อแข็งที่ใช้สำหรับงานภายใน

ไม้เนื้อแข็งมีอะไรบ้าง? ไม้เนื้อแข็งไทย 7 ชนิดยอดนิยม

  เมื่อพูดถึง ไม้เนื้อแข็งมีอะไรบ้าง สำหรับงานก่อสร้างในไทย คำตอบคือไม้เนื้อแข็งท้องถิ่นที่ผ่านการคัดเลือกจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้ง 7 ชนิดนี้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับสภาพอากาศเขตร้อนและงานก่อสร้างไทย

1. ไม้สัก (Teak)

  ไม้สักถือเป็นราชาแห่งไม้เนื้อแข็งไทย มีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ เป็นไม้เนื้อเหนียว มีความเสถียรสูง สีออกน้ำตาลทองสวยงาม สามารถย้อมสีธรรมชาติหรือย้อมเข้มได้ มีลายไม้ชัดเจน และสำคัญที่สุดคือปลวกมอดไม่กิน

  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานทั้งภายในและภายนอกอาคาร เช่น ประตูหน้าบ้าน บันได พื้นไม้ และเฟอร์นิเจอร์หรู 
  • ราคา: ระดับพรีเมียม (ไม้สักทองพม่าบันได 3,350 บาท/แผ่น)

2. ไม้มะค่า (Makha)

  ไม้มะค่าเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีสีสวยน้ำตาลแดง สามารถย้อมสีเพิ่มหรือแลคเกอร์ได้ดี มีลายไม้ชัดเจนและความทนทานปานกลางค่อนไปต่ำ

  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานภายในและภายนอกอาคาร โดยเฉพาะงานตกแต่งที่ต้องการสีแดงน้ำตาลธรรมชาติ 
  • ราคา: ระดับสูง (ไม้มะค่าบันได 1,590 บาท/แผ่น)

3. ไม้แดง (Daeng)

  ไม้แดงมีความแข็งแรงสูงและทนทานต่อสภาพอากาศภายนอก มีสีออกทางเข้มตามชื่อ เป็นไม้ที่แนะนำสำหรับงานภายนอกอาคารเป็นพิเศษ

  • การใช้งาน: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานภายนอกที่ต้องทนแดดและฝน เช่น ระเบียง บันไดภายนอก และโครงสร้างเปิดโล่ง
  • ราคา: ระดับกลางถึงสูง (ไม้แดงบันได 1,250 บาท/แผ่น)

4. ไม้ตะแบก (Tabaek)

  ไม้ตะแบกมีผิวเรียบลื่น สีสวยกลมกลืนกัน สามารถทำสีลงแลคเกอร์หรือย้อมสีเพิ่มได้ แต่มีความทนทานปานกลางค่อนไปต่ำ

  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานภายในและภายนอกอาคาร โดยเฉพาะงานที่ต้องการพื้นผิวเรียบและสีที่สม่ำเสมอ 
  • ราคา: ระดับปานกลาง (ไม้ตะแบกบันได 890 บาท/แผ่น)

5. ไม้สะเดา (Sadao)

  ไม้สะเดาเป็นไม้เนื้อแข็งปนกลาง มีสีขาวอมชมพูสวยงาม สามารถทำสีอ่อนหรือย้อมเข้มได้ตามต้องการ และปลวกมอดไม่กิน

  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานภายในอาคารเท่านั้น เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด
  • ราคา: ระดับประหยัด (ไม้สะเดาบันได 550 บาท/แผ่น)

6. ไม้เต็ง (Teng)

  ไม้เต็งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับงานภายใน มีความแข็งแรงดีและราคาที่เหมาะสม

  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานภายในอาคาร เช่น บันได พื้น และเฟอร์นิเจอร์ 
  • ราคา: ระดับกลาง (ไม้เต็งบันได 750 บาท/แผ่น)

7. ไม้โอ๊ค (Oak)

  ไม้โอ๊คแม้จะเป็นไม้นำเข้า แต่ได้รับความนิยมสูงในไทยเพราะความแข็งแรงและลายไม้ที่สวยงาม

  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานภายในที่ต้องการความหรูหราและทันสมัย 
  • ราคา: ระดับสูง (ไม้โอ๊คบันได 1,550-2,500 บาท/แผ่น)
ไม้เนื้องแข็งที่ใช้สำหรับงานภายนอก

หลักเกณฑ์การเลือกไม้เนื้อแข็งให้เหมาะสม

  หลายคนสงสัยว่า “ไม้เนื้อแข็งมีอะไรบ้าง” ที่เหมาะสมกับแต่ละการใช้งาน การเลือกไม้เนื้อแข็งที่เหมาะสมต้องพิจารณาปัจจัยสำคัญ 3 ประการ

  1. ตำแหน่งการใช้งาน: ภายในหรือภายนอกอาคาร
    • งานภายนอก: ควรเลือกไม้แดง ไม้มะค่า หรือไม้สัก
    • งานภายใน: สามารถเลือกได้หลากหลาย ตั้งแต่ไม้สะเดาจนถึงไม้โอ๊ค
  2. ความต้องการด้านสีสันและลายไม้
    • สีอ่อน: ไม้สะเดา ไม้ตะแบก
    • สีเข้ม: ไม้แดง ไม้มะค่า
    • สีทอง: ไม้สัก
  3. งบประมาณ
    • ประหยัด: ไม้สะเดา ไม้เต็ง
    • ปานกลาง: ไม้ตะแบก ไม้แดง
    • พรีเมียม: ไม้สัก ไม้โอ๊ค

เทคนิคการดูแลไม้เนื้อแข็งให้คงทน

การดูแลรักษาไม้เนื้อแข็งที่ถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งาน

  • ทำความสะอาดสม่ำเสมอ: ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เช็ดทำความสะอาด
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด: สำหรับไม้ภายในควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดที่อาจทำให้สีซีดจาง
  • ทาสีป้องกันสม่ำเสมอ: ไม้ภายนอกควรทาสีป้องกันทุก 2-3 ปี
  • ตรวจสอบปลวก: แม้ไม้เนื้อแข็งจะทนปลวก แต่ควรตรวจสอบเป็นระยะ

  การตอบคำถาม “ไม้เนื้อแข็งมีอะไรบ้าง” ชัดเจนแล้วว่าไม้เนื้อแข็งไทยมีความหลากหลายและเหมาะสมกับสภาพอากาศเขตร้อน ไม่ว่าจะสงสัยว่า “ไม้เนื้อแข็งมีอะไรบ้าง” สำหรับงานใดก็ตาม การเลือกไม้ที่เหมาะสมจะช่วยให้งานก่อสร้างมีคุณภาพและคงทน ไม่ว่าจะเป็นไม้สักสำหรับงานหรูหรา ไม้แดงสำหรับงานภายนอก หรือไม้สะเดาสำหรับงานประหยัด

  พร้อมเริ่มโปรเจ็กต์ไม้เนื้อแข็งของคุณแล้วหรือยัง? หากยังสงสัยว่า “ไม้เนื้อแข็งมีอะไรบ้าง” ที่เหมาะกับโปรเจ็กต์ของคุณ ติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาฟรีและเลือกไม้เนื้อแข็งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโปรเจ็กต์ของคุณ ไม่ต้องรอช้า เริ่มต้นการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพได้ทันที!

  • โทร: 062-535-4629 หรือ 083-994-0676
  • Line: @candndesign
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม LINE ICON