การเลือกแผ่นไม้ปูพื้นที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณเป็นการตัดสินใจสำคัญที่จะส่งผลต่อทั้งความสวยงาม ความคงทน และมูลค่าของบ้านในระยะยาว แต่ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายในท้องตลาด ทั้งแผ่นไม้พื้นจริง แผ่นไม้พื้นลามิเนต และไม้ปูพื้นกันน้ำ หลายคนจึงเกิดคำถามว่า “พื้นไม้แบบไหนดี” ที่จะตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว
จากประสบการณ์ในวงการไม้และการก่อสร้างกว่า 20 ปี เราพบว่า การเลือกไม้ปูพื้นที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาหรือความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการใช้งาน สภาพแวดล้อม และงบประมาณ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับประเภทของแผ่นไม้ปูพื้น พร้อมเคล็ดลับการเลือกที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
ทำความรู้จักกับประเภทของแผ่นไม้ปูพื้น
การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างแผ่นไม้ปูพื้นแต่ละประเภทเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเลือกพื้นไม้ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
แผ่นไม้พื้นจริง – ความงามที่ทนทานตามธรรมชาติ
แผ่นไม้พื้นจริงเป็นวัสดุที่มีความงดงามโดดเด่นตามธรรมชาติ และยังเป็นที่นิยมอย่างมากในการออกแบบบ้าน โดยไม้พื้นจริงที่นิยมนำมาใช้ประกอบด้วย
- ไม้สักทองพม่า: เป็นไม้เนื้อเหนียว มีความเสถียรสูง สีออกน้ำตาลทอง ปลวกมอดไม่กิน และใช้งานได้ยาวนาน
- ไม้มะค่า: เป็นไม้เนื้อแข็ง สีส้มอมแดงสวยงาม มีลายไม้ชัดเจน เหมาะกับทั้งภายในและภายนอกอาคาร
- ไม้แดง: มีความทนทานสูง ทนทานต่อการผุพังและปลวกไม่กิน
- ไม้ตะแบก: เป็นไม้ท้องถิ่นที่เติบโตในสภาพอากาศเดียวกับบ้านเรา ทำให้มีการหดตัวหรือบิดโก่งน้อย
- ไม้โอ๊ค: มีลายไม้สวยงาม ตอบโจทย์การออกแบบในสมัยใหม่
คุณสมบัติเด่นของไม้จริงคือ ความสวยงามของลายไม้ที่ไม่เหมือนใคร ความรู้สึกอบอุ่นเมื่อสัมผัส และความสามารถในการเพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน อย่างไรก็ตาม ไม้จริงมักมีราคาสูงและต้องการการดูแลรักษาที่เหมาะสม
พื้นลามิเนต – ทางเลือกที่คุ้มค่า
แผ่นไม้พื้นลามิเนตเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจาก
- ราคาที่ย่อมเยากว่าไม้จริง
- การติดตั้งที่ง่ายและรวดเร็ว
- มีความหลากหลายของลวดลายและสีสัน
- ทนต่อรอยขีดข่วนและแสงแดดได้ดี
- ง่ายต่อการดูแลรักษา
ลามิเนตเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับห้องที่มีการสัญจรหนาแน่น อย่างห้องนั่งเล่นหรือทางเดิน แต่อาจไม่เหมาะกับห้องที่มีความชื้นสูงเช่นห้องน้ำ
พื้น SPC- นวัตกรรมเพื่อทุกพื้นที่
พื้น SPC เป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ข้อจำกัดของไม้จริงและลามิเนตดั้งเดิม ข้อดีของ SPC ได้แก่
- ทนต่อความชื้นและน้ำได้ระดับหนึ่ง ทำให้ใช้ในชั้น 1 หรือห้องครัวได้
- ทนทานต่อการขีดข่วนและรอยกระแทก
- มีอายุการใช้งานปานกลางเมื่อเทียบกับราคา
- ติดตั้งง่ายและบำรุงรักษาน้อย
- มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก

ปัจจัยสำคัญในการเลือกแผ่นไม้ปูพื้น
การเลือกแผ่นไม้ปูพื้นที่เหมาะสมควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:
- ตำแหน่งที่ใช้งาน – ภายในหรือภายนอกอาคาร มีความชื้นสูงหรือไม่
- ความทนทาน – พิจารณาว่าพื้นที่นั้นมีการสัญจรมากน้อยเพียงใด
- สไตล์การตกแต่ง – เลือกให้เข้ากับสไตล์โดยรวมของบ้าน เช่น Tropical Style
- งบประมาณ – กำหนดงบประมาณที่เหมาะสมก่อนตัดสินใจเลือก
- การบำรุงรักษา – พิจารณาว่าคุณมีเวลาและทรัพยากรในการดูแลรักษามากน้อยเพียงใด
วิธีเลือกไม้พื้นตามพื้นที่การใช้งาน
การเลือกแผ่นไม้ปูพื้นให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญ ต่อไปนี้คือคำแนะนำสำหรับแต่ละพื้นที่:
ห้องนั่งเล่นและพื้นที่ส่วนกลาง
- แนะนำ: ไม้จริงประเภทไม้สัก ไม้มะค่า หรือ SPC คุณภาพสูง
- เหตุผล: พื้นที่เหล่านี้มักเป็นส่วนที่แขกได้เห็น จึงควรเลือกวัสดุที่มีความสวยงามและบ่งบอกถึงสไตล์ของบ้าน
ห้องนอน
- แนะนำ: ไม้จริง หรือ SPC คุณภาพดี
- เหตุผล: ห้องนอนต้องการความอบอุ่นและความสบาย ไม้จริงให้ความรู้สึกอบอุ่นตามธรรมชาติ
ห้องครัวและห้องน้ำ
- แนะนำ: ไม้ปูพื้นกันน้ำหรือไม้จริงที่ผ่านการเคลือบพิเศษ
- เหตุผล: พื้นที่เหล่านี้มีความชื้นสูงและมีโอกาสที่น้ำจะหกใส่พื้น
ระเบียงและพื้นที่ภายนอก
- แนะนำ: ไม้แดง ไม้มะค่า หรือไม้สักทองพม่า
- เหตุผล: ไม้เหล่านี้ทนทานต่อสภาพอากาศภายนอก ไม่บิดงอเมื่อโดนแดดและฝน โดยการปูเว้นระยะห่างกัน 3-5 มม

ขั้นตอนการติดตั้งแผ่นไม้ปูพื้นให้สวยและทนทาน
การติดตั้งแผ่นไม้ปูพื้นอย่างถูกวิธีจะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานและความสวยงาม โดยมีขั้นตอนสำคัญดังนี้:
- เตรียมพื้นผิวให้พร้อม – พื้นควรเรียบ แห้ง และสะอาด
- เลือกวิธีการปูที่เหมาะสม – ปูบนพื้นปูนโดยตรงหรือปูบนตงไม้
- ใช้กาวที่มีคุณภาพ – เลือกกาวที่มีส่วนผสมของน้ำน้อย โดยเฉพาะกับไม้ที่มีการขยายตัวมาก
- เว้นระยะห่างจากผนัง – เว้นช่องว่างประมาณ 5-10 มิลลิเมตรเพื่อให้ไม้มีพื้นที่ขยายตัว
- ขัดและเคลือบอย่างมีคุณภาพ – ขัดพื้นอย่างน้อย 3 รอบและทาสีให้ครบตามกำหนด
การดูแลรักษาแผ่นไม้ปูพื้นให้ใช้งานได้ยาวนาน
การดูแลรักษาแผ่นไม้ปูพื้นอย่างเหมาะสมจะช่วยให้พื้นไม้ของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและคงความสวยงาม ต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการดูแลรักษา
- ทำความสะอาดเป็นประจำ – กวาดหรือดูดฝุ่นเป็นประจำเพื่อกำจัดเศษสิ่งสกปรก
- เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ – หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมากเกินไปกับพื้นไม้
- ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสม – เลือกผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับพื้นไม้
- ป้องกันรอยขีดข่วน – ใช้แผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์และหลีกเลี่ยงการลากของหนัก
- ซ่อมแซมความเสียหายทันที – อย่าปล่อยให้รอยแตกหรือความเสียหายลุกลามใหญ่โต
เปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่าของแผ่นไม้ปูพื้น
การเปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่าจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
ประเภทไม้ | ราคาโดยประมาณ (บาท/ตร.ม.) | อายุการใช้งาน | ความคุ้มค่าระยะยาว |
ไม้สักทอง | 3500-5500 | 30+ ปี | สูงมาก |
ไม้มะค่า | 1950-3600 | 25+ ปี | สูง |
ไม้ตะแบก | 1100-2000 | 20+ ปี | ปานกลาง-สูง |
ไม้สะเดา | 750-1400 | 15+ ปี | ปานกลาง |
ลามิเนต | 300 – 1,500 | 1-5 ปี | ต่ำ |
SPC | 450-2500 | 5-10 ปี | ปานกลาง |
เลือกพื้นไม้ที่ใช่สำหรับบ้านของคุณ
การเลือกแผ่นไม้ปูพื้นที่เหมาะสมเป็นการลงทุนระยะยาวที่จะส่งผลต่อความสวยงามและมูลค่าของบ้านคุณ พิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ ทั้งพื้นที่การใช้งาน งบประมาณ และความชอบส่วนตัว
สำหรับห้องที่มีความชื้นสูง แนะนำให้เลือกไม้ปูพื้นกันน้ำหรือไม้ที่ทนความชื้น ส่วนพื้นที่ที่ต้องการความสวยงามโดดเด่น ไม้จริงอย่างไม้สักหรือไม้มะค่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด หากคุณมีงบประมาณจำกัด แผ่นไม้พื้นลามิเนตคุณภาพดีก็สามารถมอบความสวยงามใกล้เคียงไม้จริงในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า
พร้อมที่จะยกระดับพื้นบ้านของคุณด้วยแผ่นไม้ปูพื้นคุณภาพดีแล้วหรือยัง? ติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราวันนี้เพื่อรับคำแนะนำฟรีและใบเสนอราคาที่เหมาะสมกับโครงการของคุณ เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงบ้านคุณให้สวยงามและทนทานยิ่งขึ้นได้เลย!
นอกจากนี้การมีไม้คิ้วบัวที่เหมาะสมก็ยิ่งทำให้บ้านของคุณน่าอยู่ยิ่งขึ้น สามารถดูรายละเอียดและชนิดของ “ไม้คิวบัว” ได้เลย